วันที่ 11 สิงหาคม 2563 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา นำโดย พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการ ประชุมร่วมกับส่วนราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้การต้อนรับ
          นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดให้ความสำคัญในการดำเนินงานเพื่อป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 เนื่องจากมีแรงงานชาวต่างด้าวจำนวนมากอาศัยอยู่ในจังหวัด ซึ่งได้นำประเทศสิงคโปร์มาถอดบทเรียน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระบาดจากแรงงานต่างด้าวในลักษณะเดียวกัน ส่วนประเด็นการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศเพื่อพัฒนาให้เป็นจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูงนั้น จังหวัดสมุทรสาครได้เลือกรูปแบบการพัฒนา 2 ประเด็น คือ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแบบเบ็ดเสร็จ และการมอบอำนาจการบริหารงบประมาณ โดยคัดเลือกอำเภอบ้านแพ้วเป็นหน่วยทดลองนำร่องในการพัฒนาให้เป็น One Stop Service เนื่องจากเป็นอำเภอที่อยู่ห่างไกลจากราชการส่วนกลาง
          ด้านประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงให้ส่วนราชการจังหวัดสมุทรสาครทราบถึงบทบาท หน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาในการติดตามการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ พร้อมเน้นย้ำถึงการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการบริหารราชการแผ่นดิน อาทิ การลดขนาดภาครัฐให้เหมาะสม มีบริการที่สะดวกรวดเร็ว นำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อให้บริการประชาชนในทุกมิติ หน่วยงานราชการมีการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน พัฒนาไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล รวมถึงความสำคัญของ Big Data การมีแพลตฟอร์มกลางในการบริการประชาชน One Country One Platform และการพัฒนาจังหวัดให้มีผลสัมฤทธิ์สูงในทุกด้าน
          นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ได้อธิบายหลักการและสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 แก่ผู้เข้าร่วมประชุมว่า กฎหมายฉบับนี้จะทำให้เกิดการบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวของหน่วยงานภาครัฐ ข้อมูลแต่ละส่วนราชการจะมีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน รวมถึงจะมีศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ โดยหวังว่าภายในปี 2565 ประชาชนจะรับประโยชน์จากบริการ One Stop Service เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นสิทธิประโยชน์ของตนเอง พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางสำหรับบริการภาคธุรกิจ (Biz Portal) ซึ่งผู้ประกอบการ สามารถขอรับบริการต่างๆ แบบเบ็ดเสร็จ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ถึง 78ใบอนุญาต จาก 25 ประเภทธุรกิจ 
          นอกจากนี้ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการจัดหาแหล่งน้ำดิบภายในจังหวัดสำหรับใช้ผลิตน้ำประปา เพื่อรองรับการใช้น้ำของประชาชนของการประปาส่วนภูมิภาค สรุปได้ว่า ปัจจุบันสมุทรสาครมีแหล่งน้ำดิบ 2 แห่ง ประกอบด้วย แม่น้ำแม่กลอง ผลิตน้ำใช้ได้เองประมาณ 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน และแม่น้ำท่าจีน เป็นการซื้อผ่านภาคเอกชนจำนวน 4 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยที่ผ่านมาสมุทรสาครยังไม่พบปัญหาเรื่องภัยแล้ง