วันที่ 20 เมษายน 2563 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ ห้องบันทึกเสียง ชั้น 13 อาคารสุขประพฤติ นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภาร่วมบันทึกเทปรายการ “เกาะติดวุฒิสภา” ในประเด็น “มุมมองของคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภาต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19”
โดยกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่มีการระบาดยาวนานนับ 3 เดือน และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่จะหมดอายุในวันที่ 30 เมษายนนี้จะต่ออายุการบังคับใช้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่จะประเมินสถานการณ์ต่อไป สำหรับประชาชนที่อยู่ต่างประเทศและต้องการเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้มีมาตรการเตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยต้องมีใบรับรองแพทย์ Fit to Fly ในการขออนุญาตในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและเมื่อเดินทางมาถึงแล้วจะต้องถูกกักตัว 14 วันตามข้อปฏิบัติของ ศบค. และเมื่อเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ ว่าด้วยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้อาเซียน และประเทศบวกสามร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19” โดยจัดสรรเงินที่มีอยู่แล้วเท่าที่สามารถตกลงกันได้ มาใช้ในการรับมือกับโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อชุดตรวจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนเพื่อการศึกษาวิจัยคิดค้นยาและวัคซีน ให้อาเซียนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวด้วย 
     โอกาสนี้ ฝากความห่วงใยและการดูแลตนเองในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. ประกาศอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และควรมีการคัดแยกขยะแต่ละประเภทออกจากกันเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โดยจะออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา และช่องทางสื่อออนไลน์วุฒิสภา ในวันอังคารที่ 21 เมษายน 2563 เวลา 11.00-12.00 นาฬิกา