• ความตัดกันของสี default black white yellow black
  • ปรับขนาดตัวอักษร smaller default bigger

คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวง ณ กระทรวงมหาดไทย

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30 น. ณ กระทรวงมหาดไทย - พลเอก อกนิษฐ์  หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา นำคณะประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวง เกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการระดับกระทรวง (แผนปฏิบัติราชการ 5 ปี และแผนปฏิบัติราชการ 1 ปี) ที่มีความสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้นำ ปยป. กระทรวงฯ ได้ชี้แจงความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดินต่อที่ประชุม อาทิ การยกระดับการให้บริการประชาชน เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว เช่น โครงการอำเภอยิ้ม โครงการพัฒนาศูนย์ราชการสะดวก โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความสะดวก คล่องตัว ในการให้บริการ นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย ยังได้บูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทำให้ลดเวลา ลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้แลกเปลี่ยนและให้ข้อคิดเห็นในหลากหลายประเด็น โดยเน้นย้ำในเรื่องของการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) / การพัฒนาจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง / และการวางผังเมือง ซึ่งในการบริหารจัดการ Big Data ฐานข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อทุกกระทรวง เพราะสามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่เกิด จนกระทั่งเสียชีวิต มาวิเคราะห์ได้ พร้อมเสนอให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำโครงการ One Stop Service ข้ามหน่วยงาน และจัดทำศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูล โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการให้บริการประชาชน

สำหรับการดำเนินการด้านที่ดินซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจมาก นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่าได้นำระบบเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลในที่ดินของตนเองได้ โดยไม่ต้องมารับบริการจากเจ้าหน้าที่ ด้วยการนำระบบ Landsmaps มาใช้ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำให้ได้รับความสะดวกสบายจากการบริการของภาครัฐ รวมถึงยังได้พัฒนาระบบเกี่ยวกับการคำนวณภาษีที่ดินมาให้บริการประชาชนด้วย

อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศประเทศของกระทรวงมหาดไทย พบว่ามีข้อติดขัดในเรื่องของงบประมาณและบุคลากร ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก ซึ่งที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวร่วมกัน เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติต่อไป