• ความตัดกันของสี default black white yellow black
  • ปรับขนาดตัวอักษร smaller default bigger
แบนเนอร์ภาพข่าววุฒิสภา / สนช.

ภาพ - ข่าว

 

รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หนึ่ง รับหนังสือจาก ตัวแทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และคณะฯ เพื่อขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติแก้ไขพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฉบับที่ ๑๗ พ.ศ. ๒๕๖๐

วันที่ ๒๓ พฤษภาคม เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา ๒ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หนึ่ง รับหนังสือจาก นายธงชัย อิ๊ตเหล็ง ตัวแทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และคณะฯ เพื่อขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติแก้ไขพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฉบับที่ ๑๗ พ.ศ. ๒๕๖๐ ทั้งนี้เนื่องจาก พ.ร.บ. ดังกล่าว กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าของหรือครอบครองอาคารหรือสิ่งอื่นใดที่ล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำ ในน้ำ และใต้น้ำของแม่น้ำลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำและทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันบนชายหาดดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า ตามมาตรา ๑๑๗ ต้องไปแจ้งการครอบครองภายในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๐โดยผู้ไปแจ้งต้องยอมรับผิดและจ่ายค่าปรับไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ ๕๐๐บาท และไม่เกินตารางเมตรละ ๑๐,๐๐๐ บาท หากมาแจ้งหรือจ่ายค่าปรับเจ้าท่าอาจอนุญาตให้อยู่ได้โดยต้องเสียค่าตอบแทนเป็นรายปีไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ ๑๐๐ บาท และเป็นสองเท่าถ้าใช้เพื่อประกอบธุรกิจ ตามมาตรา ๑๘ กรณีที่ไม่ไปแจ้งตามเวลาที่กำหนด ผู้ครอบครองหรือเจ้าของต้องจ่ายค่าปรับตารางเมตรละ ๑,๐๐๐ ถึง ๒๐,๐๐๐ บาท จำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องจ่ายค่าปรับรายวันไม่เกิน ตารางเมตรละ ๒๐,๐๐๐ บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน ตามมาตรา ๑๑๘ ซึ่งชุมชนบ้านเลขที่ ๓๕/๑ หมู่ ๔ ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ได้อยู่อาศัยต่อเนื่องกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หลายครอบครัวมีเสาเรือนอยู่ในแม่น้ำ ลำคลอง มีบ้านอยู่ริมตลิ่งและชายฝั่ง จึงเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าว อีกทั้งชุมชนชายฝั่งส่วนใหญ่เป็นชาวประมงพื้นบ้าน ประกอบอาชีพสุจริต ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าปรับดังกล่าว หากเจ้าท่าดำเนินกฎหมายจริง คนยากจนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลและลำคลองอาจต้องถูกจำคุกแทนค่าปรับ จึงขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติช่วยแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยใช้สิทธิบุคคลและชุมชนตามมาตรา ๔๓ (๓) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ เสนอให้แก้ไข บทบัญญัติมาตรา ๑๗ และมาตรา ๑๘ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาการตั้งถิ่นฐานของชุมชนชายฝั่งต่อไป ทั้งนี้ นายสุรชัย กล่าวว่า จะส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาดำเนินการต่อไป