• ความตัดกันของสี default black white yellow black
  • ปรับขนาดตัวอักษร smaller default bigger
แบนเนอร์ภาพข่าววุฒิสภา / สนช.

ภาพ - ข่าว

 

วันที่ 15 ตุลาคม 2562 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฯ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 141 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐเซอร์เบีย


วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2562 ณ ศูนย์การประชุม Sava Center กรุงเบลเกรด สาธารณรัฐเซอร์เบีย คณะผู้แทนรัฐสภาไทย นำโดย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฯ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 141 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นวันที่ 3 โดยในช่วงเช้าคณะผู้แทนฯ ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชา (Assembly) ซึ่งในช่วงเช้าได้มีการอภิปรายระเบียบวาระเร่งด่วน (Emergency Item) ในหัวข้อ Addressing Climate Change ซึ่งได้เป็นหัวข้อที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดจากที่ประชุมสมัชชาเมื่อวันที่ 14 ต.ค. โดยผู้แทนจากนานาประเทศได้ร่วมกันอภิปรายให้ความเห็นต่อร่างข้อมติว่าด้วยความร่วมมือของชุมชนระหว่างประเทศในการจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งส่งผลต่อทุกประเทศทั่วโลก เพื่อรวบรวมข้อมูลและความเห็นเสนอคณะกรรมการยกร่างข้อมติวาระเร่งด่วนต่อไป นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้เข้าร่วมกิจกรรมการประชุมต่าง ๆ ตามกำหนดการ ประกอบด้วย การประชุมคณะกรรมาธิการสามัญว่าด้วยสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และการประชุมของผู้มีตำแหน่ง Member of the Bureau ในคณะกรรมาธิการสามัญของ IPU

ในช่วงบ่าย ประธานรัฐสภาได้เข้าร่วมการเสวนาโต๊ะกลมของประธานรัฐสภา (Speakers' Dialogue) ณ ห้องประชุม 3/1 โดยมี Ms. Gabriela Cuevas Barron ประธานสหภาพรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมซึ่งมีประธานรัฐสภาจากประเทศสมาชิกประมาณ 17 ประเทศ ได้เข้าร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนภายใต้หัวข้อหลักของการประชุม ได้แก่ หัวข้อที่ 1 การพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจ และหัวข้อที่ 2 ความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน ในการนี้ นายชวน หลีกภ้ย ประธานรัฐสภาได้ร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนกับที่ประชุมโดยมีสาระสำคัญว่า จากประสบการณ์การเมืองอันยาวนานกว่า 50 ปีของตนในฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 16 สมัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย และผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย รวมถึง ประสบการณ์ในฝ่ายบริหารในฐานะนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง ได้ค้นพบข้อสรุปว่า ภาครัฐสภาจะต้องได้รับความร่วมมือจากฝ่ายบริหารในฐานะผู้นำนโยบายไปปฏิบัติ และฝ่ายบริหารจะต้องได้รับความร่วมมือจากฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะผู้ตรากฎหมาย ผู้กำกับตรวจสอบ และผู้จัดสรรงบประมาณด้วย จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยสมาชิกรัฐสภาซึ่งทำงานใกล้ชิดกับประชาชนจะเป็นผู้สื่อสารปัญหาและความต้องการของประชาชนไปให้รัฐบาลได้รับทราบผ่านกลไกรัฐสภา โดยเมื่อครั้งที่ตนได้ทำหน้าที่ในฝ่ายบริหาร นโยบายหลายเรื่องที่ได้รับการผลักดันและยังคงมีผลจนถึงปัจจุบัน อาทิ นโยบายโครงการนมโรงเรียน และนโยบายกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ การจัดการปัญหาการทุจริตคอรัปชัน และธรรมาภิบาลถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาการเมืองไม่สุจริต และปัญหาธนกิจการเมือง (money politics) โดยหลักนิติธรรมที่วางอยู่บนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเสมอภาคจะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมลงได้ ดังคำกล่าวที่ว่า "เราไม่สามารถทำให้ทุกคนร่ำรวยเท่าเทียมกันได้...แต่สามารถทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายได้"
นอกจากกิจกรรมที่กล่าวมา คณะผู้แทนรัฐสภาไทยยังได้ปฏิบัติภารกิจในกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างการประชุม ได้แก่ การพบปะหารือทวิภาคีกับ Ms. Maja Gojkovic ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเซอร์เบีย ในเวลา 13.50 น. และการพบปะหารือกับคณะผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติใน เวลา 18.30 น. รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อาทิ เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่นาย Zoran Djukanovic กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงเบลเกรดเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานรัฐสภาและคณะฯ ณ club lounge โรงแรม Crowne Plaza จากนั้น ช่วงค่ำประธานรัฐสภาและคณะผู้แทนรัฐสภาไทยยังได้มีโอกาสพบปะกับคนไทยในเซอร์เบีย ณ โรงแรม Hilton Belgrade อีกด้วย

เครดิต: ฝ่ายเลขาคณะผู้แทนรัฐสภาไทย
กลุ่มงานสหภาพรัฐสภา
สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร