• ความตัดกันของสี default black white yellow black
  • ปรับขนาดตัวอักษร smaller default bigger
คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน

ภาพ - ข่าวคณะกรรมาธิการ

 

คณะอนุกรรมาธิการการปรับปรุง พัฒนาระบบ และการบูรณาการฐานข้อมูลในการบริหารราชการแผ่นดินของหน่วยงานของรัฐ

17 ตุลาคม 2562 ที่อาคารสุขประพฤติ - รองศาสตราจารย์ประเสริฐ  ปิ่นปฐมรัฐ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการปรับปรุง พัฒนาระบบ และการบูรณาการฐานข้อมูลในการบริหารราชการแผ่นดินของหน่วยงานของรัฐ ในคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาและศึกษาการสร้างแพลตฟอร์มในการบริการจัดการข้อมูลของรัฐ รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐกับเอกชนในการพิจารณาอนุมัติ อนุญาต จดทะเบียน จดแจ้ง หรือรับแจ้ง เป็นต้น โดยเชิญผู้แทนจากกรมการปกครอง เข้าร่วมประชุม

นายวิชัย ปัทมวิภาค เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ กล่าวถึงระบบการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐว่า เป็นการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อให้แต่ละหน่วยงานสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลประชาชนที่จัดเก็บระหว่างหน่วยงานให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ผ่านระบบ Linkage Center System โดยใช้หมายเลขประชาชน 13 หลักในการสืบค้นข้อมูล อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลจะต้องผ่านการยินยอมและตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานนั้น ๆ

สำหรับแนวทางการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ จะดำเนินการโดยให้สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เป็นหน่วยงานกลางในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลประชาชนของส่วนราชการ และทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการข้อมูลตามที่ส่วนราชการร้องขอ ขณะเดียวกันให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ จัดทำฐานข้อมูลประชาชนของตนเองตามอำนาจหน้าที่ โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เป็นดัชนีในการจัดเก็บข้อมูลและมีหน้าที่ปรับปรุงฐานข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน จากนั้นเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์กับสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง และจัดทำระบบให้บริการตรวจสอบข้อมูล เพื่อรองรับการอ่านข้อมูลประชาชนจากระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง พร้อมกับปรับปรุงระบบการบริการประชาชน เพื่อรองรับการใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) และเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์กับระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เพื่อเรียกใช้ข้อมูลในการให้บริการประชาชนจากระบบฐานข้อมูลประชาชนของหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ทดแทนการใช้สำเนาเอกสาร ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชน คือ การอำนวยความสะดวกให้ภาคประชาชน ได้รับบริการจากภาครัฐที่รวดเร็ว ลดขั้นตอนในการติดต่อราชการ ขณะที่ภาครัฐสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ที่ประชุมได้สอบถามข้อมูลและให้ข้อเสนอแนะในหลากหลายประเด็น อาทิ การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน การดำเนินการจัดทำศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดของแต่ละหน่วยงานเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ

ด้านนายธีรภัทร  มีอารีย์ ผู้อำนวยการส่วนนิติการงานทะเบียน กล่าวถึงการให้ภาคเอกชนเข้าถึงข้อมูลภาครัฐว่า มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับซึ่งต้องพิจารณาเป็นกรณีไปว่าให้เข้าถึงข้อมูลได้หรือไม่อย่างไร โดยมองว่าหากเปิดเผยข้อมูลให้ภาคเอกชนเข้าถึงได้ อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลมากขึ้น

อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีมติให้ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการให้บริการด้านข้อมูลทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน รวมถึงการดำเนินการด้านศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) พร้อมนัดประชุมครั้งต่อไปในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2562 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมหมายเลข 2303 ชั้น 23 อาคารสุขประพฤติ โดยเชิญอธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้แทน เข้าร่วมประชุม

แหล่งข้อมูล

สุดารัตน์ สร้างถิ่น ภาพ/ข่าว/เรียบเรียง