ภาพ - ข่าวคณะกรรมาธิการ

10 ตุลาคม 2562 ที่อาคารสุขประพฤติ - รองศาสตราจารย์ประเสริฐ  ปิ่นปฐมรัฐ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการปรับปรุง พัฒนาระบบ และการบูรณาการฐานข้อมูลในการบริหารราชการแผ่นดินของหน่วยงานของรัฐ ในคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดแผนการปฏิรูปประเทศ ในแผนงานพัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มบริการพื้นฐาน กรณีโครงการให้บริการแพลตฟอร์มบริการพื้นฐาน และแผนงานการบูรณาการและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล กรณีโครงการให้บริการศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ภาครัฐ โดยเชิญผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เข้าร่วมประชุม

รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ กล่าวถึงการพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐว่า ประกอบด้วย 3 มิติที่สำคัญ คือ โครงสร้างสารสนเทศ / ข้อมูลและแคตตาล็อกข้อมูล / และบุคลากรด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูล ซึ่งหากต้องการให้ระบบข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐมีความยั่งยืน จำเป็นต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาจัดระเบียบเพื่อให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า มีนวัตกรรมที่เป็นเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ที่จะทำให้เกิดบริการใหม่ ๆ และที่สำคัญที่สุด คือ เกิดกระบวนงานของภาครัฐที่โปร่งใสมีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับความสะดวก เป็นธรรม งบประมาณถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายแพทย์พลวรรธน์  วิทูรกลชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้บรรยายสรุปที่มาของโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐว่า เป็นโครงการที่ต้องการตอบสนองแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้มีระบบกลางในการบริการ Cloud Service สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มีมาตรฐานและปลอดภัย รองรับการใช้งานในการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่รัฐบาดิจิทัล ปัจจุบันบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) แบ่งบริการออกเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย บริการ GDCC Cloud Service / บริการย้ายโอนระบบงานมาอยู่บน GDCC / และบริการฝึกอบรม

อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กับ บมจ. กสท โทรคมนาคม กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมโอนย้าย Migration ลูกค้าที่ใช้งานปัจจุบันจากระบบ G-Cloud ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ไปยัง GDCC ให้เรียบร้อยภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อให้หน่วยงานสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นางไอรดา เหลืองวิไล รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวถึงหลักสำคัญของพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 ว่า เป็นกฎหมายที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการรับบริการภาครัฐที่สะดวก รวดเร็ว ลดการใช้สำเนาในเอกสารในการติดต่อราชการ สามารถติดต่อภาครัฐโดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว หรือติดต่อผ่านระบบออนไลน์แบบ One Stop Service รวมถึงการใช้ข้อมูลเปิดภาครัฐ สำหรับการติดตามและตรวจสอบการดำเนินการของรัฐ โดยสามารถนำข้อมูลเปิดไปพัฒนานวัตกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมได้

นอกจากนี้ ยังได้ยกตัวอย่างดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สำคัญ ซึ่งประชาชนและบุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากระบบได้ อาทิ ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อธุรกิจ (EEC One Stop Service) One Stop Service สำหรับชาวต่างชาติ

จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องสืบเนื่องการจัดทำแผนปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมาธิการให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มติดตาม เร่งรัด และเสนอแนะความคืบหน้าแผนการปฏิรูปประเทศ กลุ่มพิจารณาและศึกษาการสร้างแพลตฟอร์มในการบริการจัดการข้อมูลของรัฐ รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ เพื่อศึกษาและเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ และกลุ่มพิจารณาศึกษากฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและการพิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง