วันที่ 28 สิงหาคม  2563 เวลา 10.00 นาฬิกา คณะกรรมาธิการ การพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการการลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก นำโดย นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการคนที่สาม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ พลเอก วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล นายสาธิต เหล่าสุวรรณและนายเฉลียว เกาะแก้ว ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิกาและคณะอนุกรรมาธิการการลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก เดินทางลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์การเรียนรู้บ้านลิพอนใต้ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีศรีสุนทร นางอำพร ผสมทรัพย์ ประธานกลุ่มฯ พร้อมคณะให้การต้อนรับ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ฯ นั้นเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากโดยน้อมนำพระราชดำริรัชกาลที่ 9 ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติและสร้างรากฐานจากการมีครอบครัวอบอุ่นเข้มแข็งก่อให้เกิดความสามัคคีของชุมชน ทั้งนี้ยังได้ยึดหลัก 4 ดี คือ ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมดี วิถีชุมชนดี อาหารดี และผลิตภัณฑ์ชุมชนดี ในการพัฒนาให้เกิดการรวมกลุ่มของชุมชน โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาเป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนาด้านต่างๆ ปัจจุบันได้พัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนนวัตวิถี ซื้อสินค้า OTOP อีกทั้งเป็นการท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมทำกิจกรรมกับคนในชุมชนอีกด้วย
     จากนั้นเวลา 13.00 นาฬิกา ได้เดินทางไปยังบริษัทคุณแม่จู้ จำกัด โดยมีคุณวันฤดี รังสินธุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ให้การต้อนรับ ซึ่งร้านแม่จู้นั้นจากร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองเล็กๆ ขยายมาเป็นร้านค้ากว้างขวางด้วยมาตรฐาน ได้รับการคัดเลือกเป็นสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ดีเด่นระดับ 5 ดาว โดยยึดหลัก “ทำอาหารขอให้ยึดตามสูตรของเรา คัดสรรให้ดีที่สุด คิดว่าทำอาหารให้ลูก ดังนั้นสินค้าต้องดี มีคุณภาพ มีคุณค่าอาหาร” อีกทั้งมีการพัฒยาศักยภาพของโรงงานกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องและมีการจัดมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ เป็นสินค้าที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและชุมชน อีกทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับสินค้า OTOP สู่สากล นอกจากนั้นยังมีการช่วยดูแลกลุ่มชุมชนที่ยังไม่มีเครือข่ายกระจายสินค้านำสินค้ามาฝากขายด้วย ในการนี้ คณะอนุกรรมาธิการได้มอบรายงานการศึกษา เรื่อง “การฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากด้านการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการธุรกิจ SME และการยกระดับสินค้าชุมชนให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างครบวงจรต่อไป