วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 2304 ชั้น 23 อาคารสุขประพฤติ คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ร่วมกับคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา จัดเสวนาเรื่อง "กิจการเพื่อสังคม : ถึงไหน...อย่างไร? โดยมี นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมฯ เป็นประธานเปิดการเสวนา โอกาสนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้ทรงคุณวุฒิ และนักวิชาการ เข้าร่วมการสัมมนา
     นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และให้ประชาชนได้เข้าถึงสวัสดิการการช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างทั่วถึง "วิสาหกิจเพื่อสังคม" (Social Enterprise) จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ภาคเอกชนสามารถช่วยสนับสนุนรัฐในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย รวมถึงการแก้ไขปัญหาสังคม โดยการนำผลกำไรจากการประกอบกิจการไปสร้างประโยชน์แก่สังคมและจัดสวัสดิการ อาทิ การสาธารณสุข ที่พักอาศัย บริการทางการเงิน โภชนาการสำหรับเด็กและดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อมของชุมชน ดังนั้น พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 จึงเป็นกฎหมายสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้มีวิสาหกิจเพื่อสังคมมากขึ้น และกิจการได้รับการส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดีสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 
     ขณะที่ นายอำพล จินดาวัฒนะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา เสนอแนะ การแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำด้านสังคม กล่าวว่า หลังจากที่ผลักดันให้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงต้องการติดตามปัญหาและอุปสรรค การดำเนินงานของพระราชบัญญัติดังกล่าวถือเป็นกฎหมายที่ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน โดยได้กำหนดมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือสังคมและพัฒนาวิสาหกิจ ดังนั้น จึงเห็นควรให้มีการจัดเสวนาดังกล่าวขึ้น เพื่อติดตามการดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 
ให้สอดคล้องและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม อีกทั้ง เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคของการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 และเพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป