เดินทางเข้าพบประธานศาลฎีกา และคณะผู้บริหาร ศาลยุติธรรม ณ ห้องประชุมอาคารศาลยุติธรรม ศาลฎีกา ในวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564
08 เมษายน 2564
คณะกรรมาธิการ โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม
และโฆษกคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางเข้าพบนางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา และคณะผู้บริหาร
ศาลยุติธรรม ณ ห้องประชุมอาคารศาลยุติธรรม ศาลฎีกา เพื่อหารือข้อราชการเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ โดยการช่วยเหลือประชาชนซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่เดือดร้อนเพราะการสูญเสียทรัพย์สิน จากการบังคับคดี ในประเด็นดังต่อไปนี้
๑. การช่วยเหลือลูกหนี้ที่กำลังจะสูญเสียทรัพย์สินสุดท้ายจากการบังคับคดีและกำลัง
จะขายทอดตลาด โดยกระบวนการพิสูจน์การเป็นทรัพย์สินสุดท้าย
๒. การขยายเวลาการบังคับดี สำหรับ ๒ กรณี ดังนี้
๒.๑ ในชั้นการขายทอดตลาด หากลูกหนี้ขอเข้าซื้อทรัพย์สินและวางเงินประกัน
ตามที่กฎหมายกำหนดแล้วแต่ไม่สามารถนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระภายในเวลาที่กำหนดได้ ให้ลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขยายเวลาการนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระได้อีกไม่น้อยกว่า ๑๘๐ วัน
๒.๒ ในชั้นฟ้องขับไล่ ให้ลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิจารณาขยายเวลาการหา
ที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ได้ ไม่น้อยกว่า ๑๘๐ วัน
ขอหารือเกี่ยวกับการเพิ่มช่องทางการช่วยเหลือประชาชนในการผ่อนปรน หรือขยายเวลา
การบังคับชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ตามคำพิพากษา ในสภาวการณ์ที่ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทันต่อสถานการณ์ กรณี ความเป็นไปได้ ในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนด
ของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ. ๒๕๕๔ และข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ย (ฉบับที่ ๒)พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยการกำหนดขั้นตอน หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งในชั้นการบังคับคดีให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศสามารถดำเนินการ
ไปในแนวทางเดียวกันต่อไป
โดยในการหารือดังกล่าว ได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นในปัญหาข้างต้น ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า แนวทางที่จะช่วยเหลือลูกหนี้โดยเฉพาะลูกหนี้ในชั้นบังคับคดี – ขายทอดตลาด ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 สามารถดำเนินการได้เป็น ๒ ระยะ ดังนี้
ระยะเร่งด่วน
๑. การขยายเวลาการบังคับคดีกรณีการขายทอดตลาดและชั้นการขับไล่ ให้มีการงดการขายทอดตลาดสำหรับลูกหนี้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาขยายระยะเวลาการบังคับคดี กรณีการขายทอดตลาด หรือขยายเวลาการหาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของลูกหนี้ที่ถูกฟ้องขับไล่แล้วแต่กรณีตามความในมาตรา ๒๓ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
๒. สำหรับลูกหนี้ที่กำลังจะสูญเสียทรัพย์สินสุดท้ายจากการบังคับคดี กรณีที่ถูกฟ้องและอยู่ระหว่างบังคับคดี สามารถดำเนินการตาม ข้อ ๑ เพื่อขอให้มีการขยายเวลาการบังคับคดี เพื่อให้ลูกหนี้ไปดำเนินการชำระหนี้ด้วยวิธีการอื่นแทน
อย่างไรก็ตามการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องของศาลยุติธรรม จะเป็นช่องทางหนึ่ง
ที่สามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นลูกหนี้ เพื่อมิให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินจากกระบวนการบังคับคดีได้
ระยะยาว
ดำเนินการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่ ๒ ทรัพย์สินที่ไม่อยู่ใน
ความรับผิดแห่งการบังคับคดี มาตรา ๓๐๑ (๑) โดยการแก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา ๓๐๑ (๑)
ประเภททรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา กรณี อสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ให้อยู่ในบังคับของการเป็นทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีด้วย
แหล่งข้อมูล
ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมาธิการฯ โทร. 9230