วันที่ 25 กันยายน 2561 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 1 นายปารเมศ โพธารากุล ผู้ริเริ่มเสนอกฎหมาย และคณะ ยื่นหนังสือต่อนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล ที่ปรึกษาด้านการเมือง การปกครอง และการบริหารจัดการ ผ่านไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อขอคัดค้านและขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชะลอการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ฉบับที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี) เนื่องจาก ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จะทำให้องค์กรชาวไร่อ้อยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากซึ่งจะนำมาซึ่งความแตกแยกและขาดความเป็นเอกภาพยากต่อการบริหารจัดการ และทำให้เกิดการแทรกแซงของกลุ่มโรงงานน้ำตาลได้ง่ายซึ่งจะทำให้ตัวแทนชาวไร่อ้อยไม่มีอิสระในการทำหน้าที่แทนชาวไร่อ้อย รวมทั้งสร้างความไม่เท่าเทียมกันขององค์กรเกษตรกรชาวไร่อ้อยเนื่องจากวัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กรชาวไร่อ้อยตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้แทนและรักษาผลประโยชน์เกษตรกรชาวไร่อ้อยเท่านั้น หากหลักคิดเหมือนกับการบริหารผู้แทนระดับชาติให้มีผู้แทนทุกกลุ่มนั้น การให้อภิสิทธิ์องค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นกรณีพิเศษทั้งที่มีวัตถุประสงค์เดียวกันถือว่าเป็นการสร้างกฎหมายที่ขัดกับหลักความเสมอภาคในอาชีพเดียวกันซึ่งใน พ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ได้ยึดหลักการประชาธิปไตยโดยเสียงข้างมาก เกิดมาจากองค์กรชาวไร่อ้อยนั้นๆ มีปริมาณอ้อยของสมาชิกตัวเองเป็นเกณฑ์จัดสรร ดังนั้น จึงขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีและขอให้ สนช. ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวจนกว่าร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอโดยภาคประชาชนได้รับการบรรจุระเบียบวาระการประชุม สนช. ก่อน
ด้านนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล กล่าวว่าจะรับเรื่องดังกล่าวไว้เสนอต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามกระบวนการต่อไป
ทั้งนี้ นายปารเมศ โพธารากุล และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 17,839 คน เคยร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้ สนช. พิจารณาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 133 (3) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่าเป็น พ.ร.บ. เกี่ยวด้วยการเงินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 134 หรือไม่