• ความตัดกันของสี default black white yellow black
  • ปรับขนาดตัวอักษร smaller default bigger

คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสจัดเสวนา เรื่อง การออมต้นไม้ยืนต้นเป็นบำนาญชีวิตรองรับสังคมสูงวัย (การออมทองคำเขียว) ณ อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา)

วันที่ 23 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม หมายเลข 411 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โดยอนุกรรมาธิการติดตามการปฏิรูปด้านสังคม กิจการผู้สูงอายุและสังคมสูงวัย จัดเสวนาเรื่อง “การออมต้นไม้ยืนต้นเป็นบำนาญชีวิตรองรับสังคมสูงวัย (การออมทองคำเขียว)” โดยมีนายอำพล จินดาวัฒนะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ เปิดการเสวนา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
.
จากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยแล้ว และคาดว่าในปี 2566 จะเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนทุกช่วงวัยและทุกภาคส่วนที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว โดยเป็นเรื่องที่ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคม มิติด้านสภาพแวดล้อม และมิติด้านสุขภาพ ดังนั้นการออมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุจึงเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนควรให้ความสำคัญ และการออมต้นไม้ยืนต้นเป็นการเสริมการออมรูปแบบหนึ่งเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่ประชาชนในวัยสูงอายุ ดังนั้นทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานตามมาตรา 7 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 และกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกัน พ.ศ. 2561 ให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผลตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและสอดคล้องกับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม
.
สำหรับการเสวนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อรับทราบสถานการณ์การปลูกต้นไม้ยืนต้นเพื่อการออม รับทราบนโยบาย แผนงาน และข้อมูลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมาตรา 7 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 และกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกัน พ.ศ. 2561 จากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนงานภายใต้กฎหมายดังกล่าว โดยหลังการเสวนาจะนำปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะพร้อมแนวทางการแก้ไข เพื่อนำไปปรับปรุงรายงานการศึกษาเสนอต่อวุฒิสภาต่อไป