วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการการลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก ประกอบด้วย นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สามและประธานคณะอนุกรรมาธิการการลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก พร้อมด้วย พลเอก วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล นายสาธิต เหล่าสุวรรณ นายเฉลียว เกาะแก้ว รองประธานคณะอนุกรรมาธิการการลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก นายอุดม วรัญญูรัฐ กรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมาธิการเข้าประชุมหารือกับส่วนราชการ โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับพร้อมทั้งบรรยายสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะอนุกรรมาธิการ ในประเด็นเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือประชาชนตามพระราชกำหนด 4 แสนล้านบาท การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 การดูแลกลุ่มฐานราก กลุ่มใช้แรงงาน กลุ่มผู้ผลิตสินค้า โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตลอดจนมาตรการขับเคลื่อนในการช่วยเหลือกลุ่มฐานราก รวมทั้งการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน โดยผ่านกลไกของรัฐในด้านเศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งร่วมเสนอแนวทางในการแก้ไขต่อไป ทั้งเรื่องของ 1 ตำบล 1ทฤษฎีใหม่ เกษตรแปลงใหญ่และเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ทางเกษตรจังหวัดขอให้มีการลดข้อจำกัดกับการเข้าร่วมลงบ้างเพื่อให้มีสมาชิกเข้าร่วมได้อย่างยั่งยืน ส่วนทางด้านผลไม้ที่สามารถสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดและประเทศนับเป็นแสนล้านบาท และยังเป็นจุดศูนย์รวมผลไม้หลักเพื่อการส่งออก ถึงแม้ฤดูกาลผลิตที่ผ่านมาจะไม่ติดขัดเรื่องของราคาและการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลักอย่างจีน แต่ติดขัดในเรื่องของการขนส่งที่ตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกไปแล้วกลับพบว่านำกลับคืนเข้าประเทศค่อนข้างน้อย ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาได้ในอนาคต และได้เสนอให้จังหวัดเร่งผลักดันการค้าขายออนไลน์ให้มากขึ้นรวมทั้งนำคนรุ่นใหม่ที่เป็นแรงงานคืนถิ่นมาช่วยด้านการใช้เทคโนโลยี่ให้กับกลุ่มผู้ค้ารายย่อย โดยผ่านกลไกของกองทุนหมู่บ้าน
     ในการนี้ คณะอนุกรรมาธิการได้มอบรายงานการศึกษา เรื่อง “การฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากด้านการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” และหน้ากากอนามัยจำนวน 300 ชิ้น เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานของส่วนราชการต่อไป