ภาพ - ข่าว

วันที่ 14 กันยายน 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (ฝั่ง สว.) คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา นำโดย พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วย พลเรือเอก ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง ประธานคณะอนุกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน การพัฒนาระบบราชการและการผังเมือง รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการปรับปรุง พัฒนาระบบ และการบูรณาการฐานข้อมูลในการบริหารราชการแผ่นดินของหน่วยงานของรัฐ และพลเอก ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมกันแถลงข่าวผลงานของคณะกรรมาธิการ
.
โดยภาพรวมภารกิจของคณะกรรมาธิการจะเป็นการดำเนินการเพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดผลสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม เร่งรัดโครงการสำคัญ อาทิ โครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ 191 เชื่อมโยง 3 เหตุ ได้แก่ เหตุอาชญากรรม เหตุทางกาคแพทย์ และเหตุดับเพลิง ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนให้สามารถได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที การสร้างไทยแลนด์ดิจิทัลแพลตฟอร์ม One Country  One Platform เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบโจทย์ชีวิตของประชาชน การติดตามการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดิน ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีเกิดข้อพิพาทต่างๆ ที่ผ่านมา และผลักดันการกำหนดผังเมืองให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการใช้ผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ
.
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีความคล่องตัวในการบริหารระบบงาน ระบบเงิน และระบบกำลังคน (จังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง : High Performance) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานที่ทำให้การปฏิรูปประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ (Big Rock) ภายใน 5 ปี อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งของการบริหารราชการในระดับพื้นที่ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนและแก้ไขปัญหาในระบบราชการที่เรื้อรังมานาน รวมถึงติดตามการบริหารจัดการในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดต่างๆที่เกิดผลกระทบต่อชีวิตประชาชนเป็นวงกว้างอยู่ในปัจจุบันด้วย
.
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ จะได้ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่สำคัญต่างๆ กว่า 140 โครงการ โดยจะดำเนินการประชุมหารือร่วมกับกระทรวงต่างๆและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเดินทางไปติดตามความคืบหน้าและรับทราบปัญหาอุปสรรคของการดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะได้มีข้อสังเกตและข้เสนอแนะไปยังฝ่ายบริหารให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศได้บรรลุผลสำเร็จต่อไป